พาชิม สุดยอดเนื้อจาก SAGA ที่ Nami Teppanyaki SteakHouse
ได้มีโอกาสไปร่วมชิมเมนูอาหารจาก “เนื้อซากะ (ซางะ)” ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งสุดยอดเมืองที่มีเนื้อวัวที่ดีที่สุดจากประเทศญี่ปุ่น โดยงานครั้งนี้ได้รับเชิญจากห้องอาหาร “Nami Teppanyaki SteakHouse” โรงแรม JW Marriott Bangkok ไปร่วมชิมเมนูอร่อยๆ ในงาน “The Saga Returns” with Chef Akio Shimoyama of Michelin star restaurant Kira Saga, Japan. ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีมากๆค่ะ เพราะเชฟ Akio มาปรุงเมนูอาหารให้กับแขกที่มาร่วมรับประทานอาหารด้วยตัวเอง
อาหารมื้อนี้ถือว่าพิเศษสุด ๆ ค่ะ เพราะว่า “เชฟ Akio Shimoyama” เป็นเชฟที่มีประสบการณ์การปรุงอาหารจากภัตตาคาร ระดับ Michelin Starred เลยทีเดียว โดยปัจจุบันเชฟทำงานอยู่ที่ห้องอาหาร Kira ในย่าน Ginza ประเทศญี่ปุ่น สำหรับเมนูอาหารที่เชฟ akio เตรียมให้เราได้ชิมกันในวันนี้นั้นล้วนเป็นใช้วัตถุดิบที่ดี ทั้ง เนื้อซากะ หอยเชลล์ รวมถึงเครื่องปรุงที่เชฟ akio ใส่ใจอย่างเต็มที่ และในแต่ละเมนู จะมีเครื่องดื่มทั้งไวน์ คอนยัค และสาเก ให้ดื่มคู่เมนูอร่อยไปด้วย
ในส่วนของร้าน “Nami Teppanyaki SteakHouse” จุดเด่นอยู่ที่การโชว์ทำอาหารให้กับลูกค้า เชฟจะแสดงการทำเมนูอาหารต่างๆที่เราเป็นคนสั่ง ทำให้เป็นอีกหนึ่งความสุขที่ผู้ชิมได้รับจากเชฟ นอกจากรสชาติอร่อย ๆ ของแต่ละเมนู ในส่วนของโปรโมชั่นนี้ นอกจากจะได้กินเนื้อซากะอร่อยๆ เชฟยังเลือกสาเกมาทานคู่กับเมนูอาหารได้อย่างลงตัว
ถ้าพร้อมแล้ว มาดูเมนูกันเลย
– Seared US scallop chowder , edamame beans and salmon roe
– Saga rib cap, crispy prawn, tender Japanese salad greens and forest mushrooms, Yuzu dressing, senbei rice cracker
– Smoked yellow fin tuna with spicy ponzu
– Saga rib eye , long cabbage , leek , baby spinach in a Japanese traditional seiro steamer with goma sauce
– Saga Striploin 150g. with Saga honey mustard
– Tropical fruit gratin with vanilla ice-cream
เริ่มแรก เป็นเมนู (กึ่ง) ซุป “Seared US scallop chowder, Edamame beans and salmon roe” เสิร์ฟพร้อมไวน์ Jacob Creek: “Wah” Wine (วะ ไวน์) ไวน์ขาวกับอาหารทะเล เป็นอะไรที่เข้ากันมากจริง ๆ Scallop ที่สดและตัวใหญ่ ย่างแบบกำลังดี เป็นเมนูเรียกน้ำย่อยได้ดีแบบสุด ๆ ตัวซุปเองก็เข้มข้น ถูกปากมากค่ะ จริง ๆ ต้องชิมพอเป็นพิธี แต่อร่อยเกินห้ามใจ หมดไปไม่รู้ตัว
จานต่อมา เมนู “Saga rib cap กับ crispy prawn และ tender Japanese salad greens and forest mushrooms” ราดด้วยน้ำสลัดส้มยูสุ (Yuzu dressing) เสิร์ฟคู่ Bijoufu Tokubetsu Honjozo Sake สาเกมีรสหวาน ซึ่งตัดกับความเปรี้ยวของน้ำสลัดส้มยูซุได้ดี จานนี้น้ำสลัดส้มยูซุเด่นมา ทำให้เครื่องเคียงสลัดผัก กินแล้วสดชื่นเลย เนื้อซากะย่างไฟพอสุก ทำให้เนื้อซากะยังคงความหวานฉ่ำอยู่ เสิร์ฟมาพร้อมกุ้งที่ย่างสุกพอดี เรียกน้ำย่อยมากขึ้นกว่าเดิม
จานต่อมา กรี๊ดเลย เพราะ เชฟ Shimoyama มาดูแลด้วยตัวเอง เวลาดูเชฟปรุงอาหารแล้วมีความสุขจัง เมนู “Smoked yellow fin Tuna with Spicy ponzu” เมนูนี้ทำหลายขั้นตอนอยู่นะ เอาเนื้อปลาทูนาวางบนฟางข้าว แล้วจุดไฟเผาฟางปิดกล่องไว้เพื่อรมควัน กลิ่นหอมฟุ้งเลย จากนั้นก็เอาเนื้อปลาทูน่ามาปรุงต่อ ตอนเสิร์ฟจะเห็นว่า เนื้อปลาทูน่าจะมีผิวสีอ่อน สุกนิดๆ แต่ด้านในเนื้อทูน่ามีสีแดงให้เห็น น้ำลายสอสุด ๆ ตกแต่งด้วยแตงกวาญี่ปุ่น ราดด้วย ponzu ทานคู่กับสาเก Masumi Karakuchi Gold Sake เพิ่มความเข้นข้นอีกหน่อย ใครที่คออ่อน จิบแต่พองามนะคะ เดี๋ยวเมา
ต่อไป เมนู “Saga rib eye, long cabbage, Leek, baby spinach in a Japanese traditional seiro steamer with goma sauce” เนื้อซากะสไลด์อบไอน้ำ ดูเชฟทำไป น้ำลายไหลย้อย เพราะในกล่องไม้ จะมีทั้งเนื้อซากะและผักในเวลาเดียวกัน ในจานที่มาวางรอไว้จะมี Goma Source ที่หวานมัน เมื่อนำเนื้อสไลด์และผักที่สุกแล้วมาวาง ก็คีบชิมแบบร้อนๆ เนื้อนุ่มละมุน กับซอสหวานมัน เข้ากั๊น เข้ากัน … ว่าจะขออีกสักชิ้น ^^” ดื่มสาเกตามเข้าไป ยิ่งฟิน เมนูนี้ดื่มคู่กับ Yuki No Bosha Yamahai Junmai Sake
เดินทางมาถึงช่วงท้าย กับเมนูหลัก “Saga Striploin 150 g. with Saga honey mustard” เรียกได้ว่าเป็นเมนูไฮไลท์ เนื้อสเต็กชิ้นโต แค่เห็นเนื้อแดงๆ ก็หวั่นไหว ยิ่งดูเชฟสาวลงมือประกอบอาหาร ถึงกับอ้าปากค้าง กลิ่นหอมของสเต็กเนื้อซากะย่างซอสฮันนี่มัสตาร์ด โปะด้วยหอมซอย กลิ่นหอมไปถึงหมอชิต
เราสามารถเลือกระดับความสุขของเนื้อได้นะคะ แน่นอนว่า เมเม่เลือก มีเดียวแรร์ (ถ้าชอบสุก แนะนำให้เป็นเวลดัน หรือถ้าชอบดิบหน่อย แรร์ เลยค่ะ) พอเนื้อสุก กลิ่นก็ยิ่งหอม ที่ฟินสุดๆ ก็เพราะว่าเขาหั่นมาให้หลายชิ้น กินง่าย ลองชิมเนื้อซากะมีเดียมแรร์ แบบยังไม่ราดซอสส้ม Yuzu ได้รับรสชาติและกลิ่นเนื้อไปแบบเต็มๆ แล้วก็ลองแบบราดซอส ก็ได้ความสดชื่น ไปอีกแบบ ตบด้วย สาเก Tedorigawa Yamahai Junmai ที่เข้มข้น จนหน้าแดง เข้ากันจริงๆ
ปิดท้ายมื้ออาหารสุดพิเศษ ด้วยของหวาน “Tropical fruit gratin with vanilla ice-cream” และยังมี น้ำส้ม Yuzu แท้ ๆ มาให้ดื่มคู่กับเมนูของหวานอีกด้วย เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขเลยทีเดียว
บรรยากาศในร้าน Nami Teppanyaki steakhouse
ใครที่สนใจอยากลิ้มลองความอร่อยแบบเมเม่ เขาจัดโปรโมชั่นตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึง 29 มีนาคมนี้ นะคะ ที่ ห้องอาหาร Nami Teppanyaki Steak House โรงแรม เจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ ราคาเริ่มต้น 4,350++ ต่อ Set ต่อ คน โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ เบอร์ 02-656-7700 ต่อ 4811
(1097)