จุดเปลี่ยนของชีวิต ในวัย 43 ที่ทำให้จิตใจอ่อนแอ

“อยากตาย” “เบื่อ” “ไม่มีดีอะไรเลย” “ใครๆก็ไม่เห็นค่า” หลากหลายคำพูดเกิดขึ้นในหัวเต็มไปหมดในวันที่ฟ้าผ่าลงกลางชีวิต ในวันหนึ่ง ถึงจะผ่านมาเกือบสองเดือนแล้ว แต่ความรู้สึกแย่ ๆ ก็ไม่ได้จางหายเลย กลับรู้สึกว่ามันเริ่มจะเป็นพิษ เพราะบอกใครไม่ได้

จุดเริ่มต้นมาจากการปรับโครงสร้าง ทีมโดนแยกย้าย ทยอยหายไปทีละคน สองคน จนมาถึงตัวเอง เผื่อใจไม่ทัน เพราะมันเกิดเหตุในเวลาไม่เกินสองเดือน การเห็นคนหายไป ก็ตรอมใจจะแย่ แต่มาถึงคิวของตัวเอง ใจพังไปหมด คำพูดเข้ามาในหัวเต็มไปหมด เราไม่ดีตรงไหน เราทำงานน้อยไปหรือเปล่า เราไม่เก่งหรือเปล่า ทำไมต้องเป็นเรา แล้วจะทำยังไงกับชีวิตต่อจากนี้ ฯลฯ

13 ปีในวงการ 13 ปี ในนี้ (อาจจะมากกว่านั้น เพราะมีช่วงที่ยังไม่ได้บรรจุ และมีช่วงที่ออกไปโลดแล่นข้างนอก … หมดสิ้นแล้ว ความหวังและความมั่นคงในชีวิต อล้วจะทำอะไรต่อไป การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ยังไม่ได้บอกคนที่บ้านเลย ทุกวันนี้ยังหิ้วโน๊ตบุคออกไปทำงานทุกวัน หาที่นั่งไปวัน ๆ ตกต่ำก็กลับบ้าน

ยังดีที่ยังมีอะไรให้ทำ ไม่งั้นคงแย่กว่านี้ จุดที่รู้สึกว่าต้องหาที่เขียนระบายบ้างแล้ว ก็คือ ข่าวของ ดีเจโก ที่เราก็ฟังเขาทุกเช้า ดูเขาใน tiktok บ่อย ๆ คนที่สดใสและมีความสุข เป็นความสุขของเราในแต่ละวัน เขาจากไปไม่มีวันกลับ เพราะ เปแบกรับความทุกข์ และเรื่องของคนอื่นไว้มากมาย เหมือน ตัวเรา เลย ที่มีรอยยิ้มให้กับทุกคน ช่วยคนอื่น แต่ไม่เคยมองความทุกข์ของตัวเอง และไม่อยากให้คนอื่นรู้ เศร้านะ

พอว่าง เลยมีเวลาให้ตัวเองเยอะ ได้ออกไปเที่ยวที่อยากไป ไปกิน ไปใช้ชีวิต แต่สุดท้าย มันก็แค่ทางออกชั่วคราว ให้มีอะไรทำไปวัน ๆ แต่สุดท้าย ก็มานั่งเหงาอยู่ดี ชีวิตกลับมาวนลูป ตื่นมา แต่งตัว ออกจากบ้าน เหมือนออกมาทำงาน

ไม่รู้จะจบสิ้นเมื่อไหร่

(44)

เมเม่พาชิม